5 วิธีเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า

5 วิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าเบื้องต้นสำหรับฟิตเนส ควรดูอะไรบ้าง?
.
สำหรับเจ้าของธุรกิจฟิตเนส การเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะสมและเข้ากับตัวลูกค้า จะช่วยทำให้คุณสามารถตอบโจทย์ลูกค้าภายในฟิตเนสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
ดังนั้น Maxnum Fitness ขอมาแนะนำ 5 วิธีในการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับฟิตเนสให้ตอบโจทย์ลูกค้าของคุณได้มากที่สุด จะมีวิธีอะไรบ้าง มาดูกันได้เลย
.
1.ขนาดของลู่วิ่งไฟฟ้า
ขนาดของลู่วิ่งไฟฟ้าโดยทั่วไปนั้นจะอยู่ที่ความกว้างประมาณ 48 ซม. และความยาวอยู่ที่ประมาณ 140 ซม. ซึ่งสำหรับเจ้าของฟิตเนสก็อาจจะเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าบางรุ่นที่มีความกว้างมากกว่า 48 ซม.เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมีพื้นที่มากขึ้น ในขณะที่เดินหรือวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า
.
2. มอเตอร์ของลู่วิ่งไฟฟ้า
มอเตอร์ของลูกวิ่งไฟฟ้านั้นแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ มอเตอร์ DC และ มอเตอร์ AC
.
• มอเตอร์แบบ DC (Direct Current) หรือมอเตอร์กระแสไฟฟ้าตรง เหมาะกับฟิตเนสขนาดเล็กที่ให้ลูกค้ามาออกกำลังกายเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เช่นในส่วนกลางคอนโด หมู่บ้าน เป็นต้น
• มอเตอร์แบบ AC (Alternating Current) หรือมอเตอร์กระแสไฟฟ้าสลับ เหมาะสำหรับฟิตเนสชั้นนำขนาดใหญ่ที่รองรับลูกค้าได้จำนวนมาก
.
3. หน้าจอการใช้งาน
ควรเลือกซื้อหน้าจอลู่วิ่งที่กว้างและง่ายต่อการสัมผัสอย่างหน้าจอลู่วิ่งไฟฟ้าแบบ Touch Screen หรือจะเน้นความคงทนอย่างหน้าจอลู่วิ่งไฟฟ้าแบบ Manual ก็ได้ แต่ต้องแสดงผลค่าต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนเช่น เวลา, ความเร็ว, อัตราการเต้นของหัวใจ, แคลอรีและระยะทาง เป็นต้น
.
4. สเปคการใช้งาน
การเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่ลูกค้าสามารถปรับระดับความเร็วได้ถึง 20 กิโลเมตร/ชั่วโมงและปรับระดับความชันได้ถึง 20 ระดับเพื่อให้ปรับได้อิสระตามความต้องการของลูกค้าที่ใช้งานภายในฟิตเนส
.
5. การรับประกัน
สำหรับเจ้าของฟิตเนสมือใหม่ สิ่งสำคัญสำหรับการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้านั้นก็คือประกันและบริการหลังการขายไม่ว่าจะเป็น บริการจัดส่งฟรี, เช็คสภาพเครื่องหรือประกันมอเตอร์ของลู่วิ่งไฟฟ้าก็ต้องเลือกให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและคุณภาพของลู่วิ่งไฟฟ้าของคุณนั่นเอง
.
รู้แบบนี้แล้ว ถ้าคุณเป็นเจ้าของฟิตเนสที่กำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าหลากหลายที่มีประสิทธิภาพที่ดีและมีสเปคการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีที่สุด
.